สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงวอชิงตันได้ลงพื้นที่สำรวจตลาดผลไม้เขตร้อนและหารือกับผู้นำเข้า/จำหน่ายผลไม้ไทยในสหรัฐฯ เพื่อติดตามการปรับตัวและส่งเสริม/แก้ไขปัญหาอุปสรรคของสินค้าผลไม้ไทยในตลาดสหรัฐอเมริกา ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ที่ให้มีการส่งเสริมการขาย ติดตาม และให้การสนับสนุนภาคเอกชนให้สามารถเพิ่มศักยภาพในการส่งออกและกระตุ้นการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศเพื่อให้สินค้าเกษตรของไทยมีราคาสูงขึ้น

ในการลงพื้นที่สำรวจตลาดและหารือกับผู้ประกอบการร้านค้าปลีกเอเชียที่ตั้งอยู่ในรัฐเวอร์จิเนีย พบว่ามีผลไม้เขตร้อนวางจำหน่ายหลายรายการ อาทิ ทุเรียนทั้งลูกแบบสด
และแบบแช่แข็ง มะม่วง แก้วมังกร มะพร้าวอ่อน ฝรั่ง ส้ม ขนุน สับปะรด มะขามหวาน และลิ้นจี่ โดยเป็นผลไม้นำเข้าจากไทย ได้แก่ ทุเรียนหมอนทองทั้งลูกแบบสดและแบบแช่แข็ง มะพร้าวอ่อน มะม่วง และมะขามหวาน ซึ่งในภาพรวม ตลาดผลไม้เขตร้อนมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น และมีความต้องการจากกลุ่มผู้บริโภคที่หลากหลาย ทั้งนี้ พบว่าส่วนใหญ่จะเป็นการจำหน่ายผ่านสื่อ social media อาทิ Facebook โดยผลไม้ที่ได้รับความนิยมในช่วงนี้ คือ ทุเรียนหมอนทองแบบสดแกะพูบรรจุกล่องพร้อมรับประทาน

ทั้งนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯ ที่เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดี ส่งผลให้ผู้บริโภคเริ่มออกมาจับจ่ายใช้สอยตามร้านค้าเพิ่มขึ้นจากช่วงต้นปีอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อสินค้าประเภทของสด รวมถึงผลไม้สดจากไทย ทั้งนี้ จากการสังเกตพฤติกรรมผู้บริโภคภายในร้านค้าปลีกพบว่า ผลไม้เขตร้อนจะได้รับความนิยมและมีผู้บริโภคเข้ามาเลือกซื้ออย่างต่อเนื่องซึ่งจะเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการพิจารณาทำการตลาดและคัดเลือกสินค้าให้สอดคล้องกับความนิยมของผู้บริโภคแต่ละกลุ่มต่อไป